ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองไทยก็มีโอกาสได้ต้อนรับคอนเสิร์ต Distant Worlds music from FINAL FANTASY Coral จากเกม RPG ยอดฮิต ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวพิสูจน์ตนเองมาถึง 35 ปีและมาฉลองครั้งนี้แบบตรงวันเกิดพอดี
คอนเสิร์ตดังกล่าวเริ่มต้นจัดโดย AWR Music Productions วาทยากรรางวัลแกรมมี “อาร์นี รอธ” ร่วมกับนักแต่งเพลงไฟนอลแฟนตาซีต้นฉบับ “โนบุโอะ อุเอมะสึ” มีการตระเวนหลายประเทศทั่วโลกตั้งแต่เดือนสิงหาคมและวางแผนยาวไปจนถึงปีหน้า
สำหรับเมืองไทย สถานที่คือหอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา แบ่งเป็นสามรอบสองวัน 17 และ 18 ธันวาคม ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่ตรงกับการวางจำหน่ายเกมไฟนอลแฟนตาซีภาคแรกสุดในอดีตวันที่ 18 ธันวาคม 1987 ด้วย
บรรยากาศวันแรกหน้างานก็เต็มไปด้วยแฟนๆ เกมมากันอย่างคับคั่ง เป็นที่น่าสังเกตว่ามีทุกเพศทุกวัยจากรุ่นใหญ่ไปจนถึงเด็กตัวเล็ก และบางรายก็แต่งชุดคอสเพลย์เป็นตัวละคร แต่ไม่ได้จัดเต็มมากเนื่องจากข้อจำกัดของสถานที่และการเข้านั่งชมในฮอล
ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างคือการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกให้สิทธิ์เฉพาะผู้ถือบัตรคอนเสิร์ต อาทิ CD รวมเพลง เสื้อยืด พวงกุญแจ ซึ่งก็ต่อแถวกันยาวเหยียดพร้อมเสียงประกาศของหมดอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มแฟนที่รักเกมนี้จริงๆ
การแสดงในครึ่งแรกจะมาจากภาค 1 ถึง 6 นำเสนอแบบเรียงลำดับ มีภาพในเกมประกอบขึ้นจอใหญ่ส่งตรงจากค่ายสแควร์เอนิกส์เอง เป็นเวอร์ชันกราฟิกพิกเซล 2 มิติทำใหม่มาตรฐานเดียวกันโดยที่ยังคงสไตล์ต้นฉบับเดิมไว้
เพลงเด่นของแต่ละภาคจะมาพร้อมฉากเหตุการณ์ไฮไลท์สำคัญที่คนเคยเล่นต้องจำได้ ครบทั้งฉากซึ้งสะเทือนใจ การออกเดินทาง พลีชีพ เหตุการณ์พลิกผัน หรือแม้แต่ฉากเอาฮาอย่างการ “จับรถไฟทุ่ม” ในภาค 6 ก็มาด้วย
หลังบรรเลงจนครบหมด วาทยากร อาร์นี รอธ ก็ปิดด้วยเพลงฉากต่อสู้แบบเมดเลย์รวดเดียวและภาพในเกมก็จัดเต็มเช่นกัน มาทั้งคาถาระดับสุดยอด อสูรอัญเชิญ ศัตรูตัวแสบที่ทำเอาคนเคยเล่นต้องเครียด ไปจนถึงเพลงฉลองชัยชนะอันเป็นเอกลักษณ์
ในช่วงครึ่งหลัง การแสดงก็มีทีมร้องประสานเสียงเพิ่มเข้ามา นำเสนอเพลงภาค 7 ไปจนถึงภาค 15 ขณะที่ภาพเกมประกอบก็เป็นกราฟิกทันสมัยขึ้น เข้าสู่ยุคสามมิติและมูวี CG ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอันหนึ่งของซีรีส์
ทางฝั่งผู้ชมเองก็เริ่มมีการส่งเสียงฮือฮาตอบรับต่อการแสดงแต่ละชุดมากขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าหลายคนได้รู้จักและกลายเป็นแฟนตัวยงของไฟนอลแฟนตาซีเริ่มจากช่วงนี้ในอดีตนี่เอง
สิ่งหนึ่งที่ชาวไทยโชคดีกว่าผู้ชมฝั่งตะวันตกคือแขกรับเชิญพิเศษ มีศิลปินต้นฉบับตัวจริงมาร้องสดให้ฟังในฮอลคือคุณ “Rikki” กับเพลง Suteki da ne จากภาค 10 และคุณ “เอมิโกะ ชิราโทริ” กับเพลง Melodies Of Life ของภาค 9 เรียกได้ว่าคุ้มค่าครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ
นอกจากนี้ นักแต่งเพลงก็มาร่วมชมการแสดงพร้อมกันในฮอล ได้แก่คุณ “ฮิโตชิ ซากิโมโตะ” จากภาค 12 และคุณ “โยโกะ ชิโมมุระ” จากภาค 15 โดยแขกรับเชิญจะมีช่วง Meet & Greet ให้พบปะแฟนๆ หลังแสดงจบ เฉพาะผู้ถือบัตรระดับ Crystal Seat จำนวนจำกัดเท่านั้น
ภายในเวลากว่า 2 ชั่วโมง ความรู้สึกที่ได้จากคอนเสิร์ตคือเต็มอิ่มครบทุกภาค แต่ด้วยจำนวนเกมที่เยอะก็เลยต้องเลือกเฉพาะเพลงเด่น จนอาจจะรู้สึกเสียดายบางเพลงที่ไม่ได้นำมาแสดงในงาน โดยเฉพาะเพลงของเกมยุคหลังๆ ที่มีจำนวนมากกว่าโดยรวมแล้ว คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ถือเป็นการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนานของไฟนอลแฟนตาซีที่คุ้มค่า หากมีโอกาสได้กลับมาจัดอีกในอนาคตก็ขอแนะนำว่าแฟนเกมควรไปลองสัมผัสให้ได้สักครั้ง
คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด