รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซีเสมอกัน 0-0 ในเกมที่เตะกันท่ามกลางแสงไฟที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยทีมปีศาจแดงยังคงอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ ลีก
ทั้ง 2 ทีมมีโอกาสจะแจ้งที่จะเป็นฝ่ายชนะในเกมนี้ และทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ต้องผิดหวังที่ไม่สามารถกุมความได้เปรียบหลังทำได้ดีกว่าในครึ่งแรก
กุนซือชาวดัตช์ได้ข่าวดีก่อนเกมเมื่อ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ มัตเตโอ ดาร์เมียน พร้อมกลับมาลงสนาม หลังพ้นโทษแบน และหายเจ็บตามลำดับ ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ และ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน ก็กลับมามีชื่อเป็นตัวจริง ทำให้ เมมฟิส เดปาย, ไมเคิล คาร์ริค, มารูยาน เฟลไลนี่ และ ฟิล โจนส์ ต้องไปนั่งสำรอง
บรรยากาศของเกมเป็นไปอย่างสนุกนับตั้งแต่ที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกม เป็นเจ้าถิ่นที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ และเพียงแค่ 2 นาทีแรกเท่านั้น ลูกทีมของฟาน กัลก็สร้างสรรค์โอกาสที่ใกล้เคียงต่อการเป็นประตู เมื่อลูกยิงของ ฮวน มาต้า พุ่งไปชนคาน โดยที่ ธิโบต์ คูร์ตัวส์ ไม่สามารถเซฟได้แล้ว หลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าทีมเยือนโดยตลอด แต่กลับกลายเป็นว่าทีมของ กุส ฮิดดิงค์ ที่มาได้ลุ้นในจังหวะถัดไป
ดาลี่ย์ บลินด์ เป็นฝ่ายเสียบอลในการดวลกลางอากาศ ทำให้ เอเด็น อาซาร์ ได้หลุดขึ้นหน้า ช่วยให้ทีมได้ลูกเตะมุมที่อัฒจันทร์ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ ซึ่งจากลูกนิ่งจังหวะนี้ จอห์น เทอร์รี่ ได้โขกเต็มๆ แต่ ดาบิด เด เคอา ก็ยังเซฟเอาไว้ได้ด้วยปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยม ทำให้สกอร์ยังคงไม่ขยับ
จังหวะเกมยังคงรวดเร็วต่อไปในอีก 20 นาที เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้ทดสอบแนวรับเชลซีอยู่เรื่อยๆ ด้วยการยิงไกลสุดอันตราย ชไนเดอร์ลินเป็นคนแรกที่ได้ลองส่องก่อน ซึ่งบอลก็หลุดกรอบออกไป ก่อนที่เทคนิคอันเหลือร้ายของ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล จะเล่นงาน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังสิงห์บลูส์ และนักเตะชาวฝรั่งเศสก็ได้ยิงไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
เป็นฝั่งสีแดงที่ได้ลุยอยู่ข้างเดียว มาต้าเป็นแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนต่อมาที่ได้บอลทางพื้นที่ว่างฝั่งขวา แต่ลูกครอสของเขาก็ไปถูกเทอร์รี่โขกเคลียร์ได้ก่อนที่จะถึงรูนี่ย์ ไม่กี่นาทีต่อมารูนี่ย์ก็มาได้โอกาสจนได้ แต่ลูกยิงไกลของเขาก็ไปติดเซฟคูร์ตัวส์ ขณะที่จังหวะสวนกลับเร็วของเชลซีก็มาถูกสกัดเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมโดย แอชลี่ย์ ยัง ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงแบบไม่มีสกอร์ โดยที่มีนักเตะโดนใบเหลือง 3 คนคือสมอลลิ่ง, ชไนเดอร์ลิน และ จอน โอบี มิเกล
กลับมาเตะกันในครึ่งหลังกลายเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีขึ้น และก็ดูดีกว่าทีมปีศาจแดง เริ่มเกมมาได้ไม่นาน อาซาร์พาบอลทะลุแนวรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก่อนจ่ายให้ เปโดร โรดริเกซ ยิงไปติดเซฟ แต่บอลก็ยังมาเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า แต่แบ็คซ้ายทีมเยือนก็ยังซัดไปติดเซฟของเด เคอาอีก ถือเป็นอีกครั้งที่เขาได้โชว์ความเหนียวในเกมนี้
นาทีที่ 56 อันเดร์ เอร์เรร่า พลาดโอกาสเมื่อยิงจ่อๆ ไปติดเซฟคูร์ตัวส์ หลังจากที่มาร์กซิอัลพาบอลลุยมาทางฝั่งซ้ายก่อนตบเข้ากลาง จากนั้นทีมปีศาจแดงก็มาร้องเอาจุดโทษเมื่อ วิลเลียน ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน ก็ไม่สนใจแต่อย่างใด
ทีมของฟาน กัลมาเรียกเอาลูกจุดโทษอีกครั้ง หลังจากที่มาต้าถูกปะทะล้มลงโดยอัซปิลิเกวต้า แต่ก็ยังไม่เป็นผล และจากนั้นไม่นาน เนมานย่า มาติช ก็มาพลาดโอกาสทองที่ใกล้เคียงที่สุดในเกมนี้ โดยเขาหลุดเดี่ยวไปยิงข้ามคานอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่เหลือแค่เด เคอากับกรอบประตูอยู่ตรงหน้าแล้ว
จากนั้นก็เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ครองเกมได้มากกว่า แต่ก็ได้ยิงตรงกรอบเพิ่มอีกแค่ 2 ครั้ง และก็ไม่ได้สร้างความหนักใจใดๆ ให้กับทีมเยือน ขณะที่เวลากำลังจะหมดลง ทีมปีศาจแดงมาได้โอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 86 เมื่อรูนี่ย์ได้วอลเล่ย์จากการครอสมาให้ของตัวสำรอง คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน หลุดกรอบ และจบเกมทั้งคู่ก็ต้องแบ่งแต้มกันไป
สถิติ